ค้นหา
ไทย
สินค้าตามประเภท
    เมนู ...ปิด
    RSS

    แสดงบทความเกี่ยวกับ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด แบบ พิมพ์โดยใช้ความร้อน กับ พิมพ์โดยใช้หมึก แตกต่างกันยังไง?
    ความคิดเห็น (0) เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด แบบ พิมพ์โดยใช้ความร้อน กับ พิมพ์โดยใช้หมึก แตกต่างกันยังไง?

    Barcode printer สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท

    1. Direct Thermal   เป็นเครื่องพิมพ์ที่ไม่ต้องใช้ตัวกลางในการพิมพ์
    2. Thermal Transfer เป็นเครื่องพิมพ์ที่ต้องใช้ตัวกลาง (Ribbon)ในการพิมพ์

    เทคโนโลยีทั้งสองแบบจะใช้หัวพิมพ์ชนิด Flat-Head ซึ่งจะมีแหล่งกำเนิดความร้อนบริเวณปลายของหัวพิมพ์ และโดยทั่วไปหัวพิมพ์จะมีความละเอียดที่ 200 dpi และ 300 dpi

    หมายเหตุ Direct Thermal จะใช้ในงานประเภทสินค้าบริโภค เช่น. อาหาร ผักผลไม้ ระบบThermal Transfer จะใช้กับงานที่ต้องการความคงทนและมีอายุการใช้งานนาน เช่น. เครื่องใช้ไฟฟ้าทรัพย์สิน, อุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น แต่จะมีค่าใช้จ่ายด้าน Ribbon

     

    Direct Thermal เป็นเครื่องพิมพ์ที่ไม่ต้องใช้ตัวกลางในการพิมพ์

             เทคโนโลยีการพิมพ์ลงบนกระดาษความร้อน โดยใช้หัวพิมพ์ซึ่งมีตัวกำเนิดความร้อนทำหนาที่ถ่ายเทความร้อนมาที่กระดาษทำ ให้เกิดปฎิกิริยาทางเคมี และทำให้สีที่กระดาษเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสีที่เปลี่ยนนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของกระดาษด้วย โดยปกติการพิมพ์แบบนี้จะใช้สำหรับชิ้นงานที่มีอายุการใช้งานสั้นฯ เพราะกระดาษความร้อนจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องของแสง UV และความร้อน ประเภทสินค้าบริโภค เช่น ผัก, ผลไม้

    • เป็นการสร้างภาพโดยให้ความร้อนบนกระดาษเคลือบสารเคมี บริเวณที่กระดาษถูกความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
    • ภาพ 2 สี สามารถสร้างได้โดยให้อุณหภูมิของแต่ละสีต่างกัน (โดยส่วนมากเป็นสีแดง)

    ส่วนประกอบของ Direct Thermal



    • ในการพิมพ์ กระดาษเคลือบผิวจะถูกใส่อยู่ระหว่างหัวพิมพ์และลูกกลิ้ง เครื่องพิมพ์ส่งกระแสไฟฟ้าไปที่ตัวตานทานกระแสไฟฟ้าของหัวพิมพ์และเกิดความร้อนกระตุ้นให้เกิดภาพบนกระดาษเคลือบสารเคมี
    • กระดาษเคลือบสารเคมีที่อยู่ในสถานะของแข็ง (สีย้อมและส่วนผสมของตัวกำเนิดภาพ) เมื่อหัวพิมพ์ได้รับความร้อนสารเคลือบจะตอบสนองเปลี่ยนเป็นภาพและเปลี่ยนกลับเป็นของแข็งอย่างรวดเร็ว
    • ตั้งแต่ปี 1990 fax ใช้เทคโนโลยีของ Thermal printers จนถึงศตวรรษที่ 21 มาถูกแทนที่ด้วย thermal wax transfer, laser, inkjet, และการพิมพ์บนกระดาษธรรมดา
    • ในช่วงแรกสารเคลือบที่ใช้บนกระดาษ thermal มีปัญหาในเรื่อง การถลอก การเสียดสี  (อาจเกิดความร้อนทำให้กระดาษดำ)  แสง (ทำให้ภาพจาง)
    • ภาพพิมพ์ไม่เหมาะกับการเก็บไว้ที่อุณหภูมิสูง ไม่ควรเกิน70 องศาเซลเซียส
    • เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่มีอายุการใช้งานสั้นๆ เช่นการจัดส่งสินค้าภายในประเทศหรือติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้ในร่ม

     

    Thermal Transfer เป็นเครื่องพิมพ์ที่ต้องใช้ตัวกลาง (Ribbon) ในการพิมพ์

           เทคโนโลยีการส่งผ่านความร้อนไปยังแผ่นฟิล์ม หมึก(Ribbon) และหมึกก็จะถ่ายทอดไปสู่พื้ผิวหรือกระดาษอีกทีหนึ่ง แผ่นฟิล์มริบบ้อน ที่ใช้นี้จะเป็นแผ่นบางฯ ซึ่งประกอบด้วย wax หรือ wax/resin จะทำหน้าที่เป็นหมึกเมื่อโดนความร้อนก็จะเปลี่ยนเป็นของเหลวและจะมาติดกับ ชิ้นงาน ไม่เหมือนกับ Direct transfer และจะไม่เกิดปฎิกิริยาทางเคมีเหมือนกระดาษความร้อน การพิมพ์โดยใช้ Thermal transfer ใช้กับประเภทสินค้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ทรัพย์สิน, อุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น แต่จะมีค่าใช้จ่ายด้าน Ribbon

     

    • เป็นการสร้างภาพโดยความร้อนจากหัวพิมพ์ถ่ายโอนไปยังริบบอน วัสดุหรือหมึกบนริบบอนจะย้ายไปติดยังวัสดุพิมพ์
    ส่วนประกอบของ Thermal Transfer

     



    ชนิดของสติ๊กเกอร์บาร์โค้ด (Barcode Sticker หรือ Label) แบบ Thermal Transfer 

    • POLY LASER - งานที่มีความร้อน
    • WHITE POLY - งานด้านอิเล็คทรอนิกส์, ทรัพย์สิน
    • BOPP - งานที่มีความเย็น
    • UPO - งานห้องเย็น
    • PP WHITE - งาน JEWELRY
    • LAMINATE - งานเครื่องสำอางค์
    • VOID - งานรับประกันสินค้า
    • TAG - งานโรงหนัง, เสื้อผ้า
    • FOIL - งานทรัพย์สิน, อุตสาหรรมเครื่องยนต์
     
    เทคนิคการเลือกความละเอียดเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
    ความคิดเห็น (0) เทคนิคการเลือกความละเอียดเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด คือ เครื่องพิมพ์ สำหรับพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ โดยลักษณะการทำงานของเครื่องพิมพ์ ใช้ความร้อนในการพิมพ์บาร์โค้ดลงบนสื่อต่างๆ ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทั่วไป จะมีความละเอียดของหัวพิมพ์น้อยกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป คือมีความละเอียดของหัวพิมพ์อยู่ระหว่าง 200 - 600 Dpi และพิมพ์ได้เพียง 1 สีเท่านั้น (Monotone) แต่เนื่องจากเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีความเร็วในการพิมพ์สูง และสามารถพิมพ์บาร์โค้ดออกได้อย่างชัดเจน และเหมาะสมกับการพิมพ์บาร์โค้ดสำหรับติดลงวัตถุ หรือสินค้า จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
    เครื่องพิมพ์ลาเบล มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
    ความคิดเห็น (0) เครื่องพิมพ์ลาเบล มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

    บาร์โค้ด คืออะไร 

    • บาร์โค้ด (Barcode) เป็นรหัสแท่งประกอบด้วยเส้นมืด (มักจะเป็นสีดำ) และเส้นสว่าง (มักเป็นสีขาว) วางเรียงกันเป็นแนวดิ่ง เป็นรหัสแทนตัวเลขและตัวอักษร ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถอ่านรหัสข้อมูลได้ง่าย ขึ้น โดยใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Barcode Scanner) ซึ่งจะทำงานได้รวดเร็ว และช่วยลดความผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลได้มาก บาร์โค้ดเริ่มกำเนิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1950 โดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจทางด้านพาณิชย์ขึ้น สำหรับค้นคว้ารหัสมาตรฐานและสัญลักษณ์ที่สามารถช่วยกิจการด้านอุตสาหกรรม และสามารถจัดพิมพ์ระบบบาร์โค้ดระบบ UPC-Uniform ขึ้นได้ในปี 1973 ต่อมาในปี 1975 กลุ่มประเทศยุโรปจัดตั้งคณะกรรมการด้านวิชาการเพื่อสร้างระบบบาร์โค้ด เรียก ว่า EAN-European Article Numbering สมาคม EAN เติบโตครอบคลุมยุโรปและประเทศอื่นๆ (ยกเว้นอเมริกาเหนือ) และระบบบาร์โค้ด EAN เริ่มเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 1987 โดยหลักการแล้ว บาร์โค้ดจะถูกอ่านด้วยเครื่องสแกนเนอร์ บันทึกข้อมูลเข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์โดยตรง โดยไม่ต้องกดปุ่มที่แท่นพิมพ์ ทำให้มีความสะดวก รวดเร็วในการทำงาน รวมถึงอ่านข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เชื่อถือได้ และจะเห็นได้ชัดเจนว่าปัจจุบันระบบบาร์โค้ดเข้าไปมีบทบาทในทุกส่วนของ อุตสาหกรรม การค้าขาย และการบริการ

     

    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

    • เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด Barcode Printer หรือ Printer Barcode (ภาษาไทย : เครื่องพิมพ์ บาร์โค้ด) คืออะไร โดยส่วนใหญ่หน่วยงานต่างๆ จะใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดเพื่อพิมพ์บาร์โค้ดใส่สติ๊กเกอร์เพื่อทำรหัส เพื่อความสะดวกต่อการเก็บข้อมูล Barcode Printer เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (หรือ Barcode Printer เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด) เป็นอุปกรณ์ที่ต้องต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์สำหรับการพิมพ์สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด (Sticker Barcode) ป้ายชื่อหรือแท็กที่สามารถใช้ติดกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าต่างๆ สินค้าอุปโภค สินค้าบริโภค เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ใช้ทั่วไปจะพิมพ์กับสติ๊กเกอร์บาร์โค้ด หรือป้ายสติ๊กเกอร์ (แท็ก) หรือ พิมพ์ที่กล่องก่อนที่ทำการจัดส่งสินค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่สำหรับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดในการพิมพ์ จะแบ่งเป็น 2 ระบบ มีทั้งระบบ Thermal Transfer และ ระบบ Direct Thermal ดังต่อไปนี้ ระบบ Thermal Transfer ซึ่งเป็นระบบที่ต้องใช้ริบบอนบาร์โค้ดในการพิมพ์ คนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่า ริบบอนคืออะไร ริบบอน คือ หมึกที่เอาไว้ใช้ในการพิมพ์บาร์โค้ดโดยจะผ่านระบบความร้อนของหัวพิมพ์ ซึ่งมีความละเอียดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความละเอียดของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

     

    ระบบของการพิมพ์ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

    เครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์บาร์โค้ด ใช้ความร้อนในการพิมพ์บาร์โค้ดลงบนสื่อต่างๆ ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทั่วไป จะมีความละเอียดของหัวพิมพ์น้อยกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป คือมีความละเอียดของหัวพิมพ์ อยู่ระหว่าง 200 - 600 Dpi และพิมพ์ได้เพียง 1 สีเท่านั้น (Monotone) แบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ Thermal Transfer และ Direct Thermal

    • ระบบพิมพ์ผ่านผ้าหมึก (Thermal Transfer) คือ ระบบการพิมพ์ที่ต้องอาศัยผ้าหมึกในการพิมพ์ โดยตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดจะส่งความร้อนไปยังหัวพิมพ์ เพื่อละลายหมึกบนผ้าหมึกให้ติดสื่อที่ต้องการ ซึ่งผ้าหมึก ที่เราใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด เรียกว่า ริบบอน (Ribbon)
    • ระบบพิมพ์โดยตรง (Direct Thermal) คือ ระบบการพิมพ์โดยไม่ต้องใช้ริบบอน โดยตัวเครื่อง จะส่งความร้อนไปยังหัวพิมพ์และสัมผัสกับตัวสื่อโดยตรง ระบบการพิมพ์โดยตรง จะมีอายุการเก็บรักษาไว้ไม่ได้นาน และไม่ทนต่อรอยขีดข่วน

    ประเภทของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

     

    Desktop Printer Mid-Rang Printer Industrial Printer

    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดเล็ก

    พิมพ์ไม่เกิน 1,000 ดวง/วัน

    ความละเอียด 203 - 300 dpi

    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดกลาง

    พิมพ์ไม่เกิน 3,000 ดวง/วัน

    ความละเอียด 203, 300, 400, 600 dpi

    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดใหญ่

    พิมพ์ 4,000 - 10,000 ดวง/วัน

    ความละเอียด 203, 300, 400, 600 dpi

    รองรับหน้ากว้างสูงสุด 8 นิ้ว


    สติ๊กเกอร์ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Media Type)

    1. Continue คือสติ๊กเกอร์ที่เป็นลักษณะต่อเนื่อง
    2. GAP/NOTCH คือสติ๊กเกอร์ที่ถูกตัดออก เป็นดวงๆ หรือเป็นลักษณะเป็นรู เพื่อให้เซ็นเซอร์จับความสูงของ สื่อแต่ละดวงได้
    3. Black Mark คือสติ๊กเกอร์ที่ทำเครื่องหมายสีดำ ไว้ด้านหลัง เพื่อให้เซ็นเซอร์จับความสูง ของสื่อแต่ละดวงได้

     

    ริบบอนที่นำมาใช้ในการพิมพ์บาร์โค้ด

    แบ่งกลุ่มออกเป็น 3 ลักษณะขึ้นอยู่กับความทนทานและวัตถูประสงค์ในการใช้งานของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ประกอบด้วย

      1. Super Resin หรือ Ribbon Resin: หากผู้ใช้งานเลือกริบบอนกลุ่มนี้ จะไม่สามารถลอกหรือขูดบาร์โค้ดออกได้เลย เพราะมีความคงทนต่อการขีดข่วนมากที่สุด
      2. Ribbon wax resin: มีคุณสมบัติในการทนทานต่อการขีดข่วนได้ดี เหมาะกับงานพิมพ์บนกระดาษผิวมัน หรืองานที่ต้องเน้นเรื่องการยึดติดกับผิวบรรจุภัณฑ์ได้ดี เช่น งานสินค้าที่ต้องแช่แข็ง อุณหภูมิ 0 – 40 องศา
      3. Ribbon Wax : มีคุณสมบัติทนต่อการขีดข่วนได้ดีปานกลาง จึงใช้งานได้หลายรูปแบบและมักจะถูกนำไปใช้ในงานที่เน้นประหยัดต้นทุนและต้องการความรวดเร็ว

     

    เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดอย่างไร? ให้เหมาะกับธุรกิจ
    ความคิดเห็น (0) เลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดอย่างไร? ให้เหมาะกับธุรกิจ

    ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการนำเทคโนโลยี “บาร์โค้ด” ทั้งบาร์โค้ดแบบ 1D และ 2D มาประยุกต์ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เพื่อระบุรายละเอียดของสินค้า วัตถุ สิ่งของต่างๆ การติดตามสินทรัพย์ บุคคล รวมถึงการทำธุรกรรมต่างๆ โดยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งในองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ธุรกิจขนส่งสินค้า รวมถึงธุรกิจคลังสินค้า เป็นต้น

    เทคโนโลยีบาร์โค้ดทั้ง 1D และ 2D ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายด้วยคุณลักษณะเด่นหลายด้าน อาทิเช่น ความเร็ว ความแม่นยำ ความสะดวกสบาย อีกทั้งช่วยดำเนินงานในธุรกิจต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจกำลังเติบโตและก้าวสู่ยุคโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และ อีคอมเมิร์ซ มากขึ้นความจำเป็นในการนำบาร์โค้ดมาใช้งานจึงมีอัตราสูงขึ้นด้วย

    ประโยชน์ของการใช้งานบาร์โค้ด

    • มีความรวดเร็วและสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
    • ช่วยลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและประหยัดเวลาการทำงานในกระบวนการการซื้อขายสินค้า การรับชำระเงิน การออกใบเสร็จ และการตัดสต็อกสินค้า เป็นต้น
    • กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในทางธุรกิจ ง่ายต่อการทำงานร่วมกับระบบ POS และการบริหารจัดการสินค้าคงคลังผ่านระบบไอที
    • ยกระดับมาตรฐานการทำงานของธุรกิจ เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว ยกระดับศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจ เมื่อการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทำอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้ว่าสินค้าชนิดใดได้รับความนิยม และต้องสั่งสินค้าในช่วงเวลาใด จึงจะสอดคล้องกับแผนการตลาด
    • นอกเหนือจากผู้ประกอบการ ลูกค้ายังสามารถได้รับประโยชน์จากกระบวนการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ทำให้เกิดความประทับใจในการให้บริการ

    เคล็ดลับการเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดให้เหมาะสมกับธุรกิจในปัจจุบันมีเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ให้เลือกหลายรุ่น หลายระดับราคาให้เลือกใช้งาน โดยผู้ประกอบการต้องเลือกเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ เพราะปัจจัยของการเลือกใช้งานเครื่องพิมพ์ ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทุ่นแรงในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย นอกจากนี้มีวิธีการนำเสนอวิธีการเลือกใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดในแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับธุรกิจ ดังนี้

     

    bar2

     

    ประเภทของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

    • เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดตั้งโต๊ะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย เหมาะสมกับผู้ประกอบธุรกิจ SMEs หรือเจ้าของธุรกิจในแวดวงอีคอมเมิร์ซ และร้านค้าปลีกขนาดเล็ก เป็นต้น
    • เครื่องพิมพ์ระดับอุตสาหกรรม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้พิมพ์ฉลากหรือบาร์โค้ดด้วยความเร็วสูงและความทนทานสูง ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจคลังสินค้า และผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ที่ต้องพิมพ์ฉลากและบาร์โค้ดจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว
    • เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อ พิมพ์ข้อความ รูปภาพและบาร์โค้ดลงบนบัตรพลาสติก เช่น บัตรสมาชิกหรือบัตรประจำตัวพนักงาน
    • เครื่องพิมพ์แบบพกพา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกทออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด สามารถทำงานแบบไร้สาย และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้
    • เครื่องพิมพ์ RFID เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถให้การติดตามแบบเรียลไทม์

     

    การเชื่อมต่อ
    ในปัจจุบัน เราสามารถสั่งพิมพ์บาร์โค้ดได้หลากหลายช่องทาง อาทิ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยสามารถเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น พอร์ตพริ้นเตอร์ และพอร์ต USB ซึ่งเป็นการสั่งพิมพ์ผ่านระบบเครือข่ายแบบใช้สายและไร้สาย หรือสั่งพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดแบบพกพาผ่านบลูทูธ เป็นต้น

    สะดวกและง่ายดายในการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองและการบำรุงรักษา
    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ดีจะต้องรองรับประสิทธิภาพของการทำงานที่รวดเร็ว และสามารถเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองอย่างม้วนกระดาษความร้อน ริบบอน หรือผ้าหมึก ก็ต้องทำได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วด้วย เพราะเครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีนั้นจะช่วยให้ผู้ใช้ประจำเคาน์เตอร์สามารถเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ลดเวลาการรอคอยของลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจในการให้บริการเป็นอย่างดี

    Zebra Technologies ผู้นำเทคโนโลยีบาร์โค้ด

    Zebra Technologies เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีความสามารถในการติดตาม ตรวจตราสินทรัพย์ บุคลากร และธุรกรรมต่างๆ ในองค์กรได้แบบเรียลไทม์ อยู่ในฐานะของผู้นำในการคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีบาร์โค้ด ทั้งเครื่องอ่าน เครื่องพิมพ์ และโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งในหน่วยงานภาครัฐ และธุรกิจเอกชน มายาวนานมากกว่า 35 ปี ทำให้มีเข้าใจความท้าทายในการใช้งานบาร์โค้ดในธุรกิจต่างๆ เป็นอย่างดี

    ล่าสุด Zebra Technologies มีการออกแบบ GC420 และ GT800 เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs หรือแม้แต่ร้านค้าออนไลน์ ที่ต้องการเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดราคาประหยัด สามารถจัดหามาใช้งานได้ง่าย แต่พร้อมด้วยประสิทธิภาพ ความทนทาน ดูแลรักษาง่าย และเป็นเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเซียโดยเฉพาะ

    bar4

    GC420 เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดขนาดกะทัดรัด ราคาแสนประหยัด

    Zebra GC 420 เป็นเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่มีจุดเด่นคือ มีขนาดเล็กและราคาประหยัด โดยสามารถพิมพ์ตัวอักษรและบาร์โค้ดได้อย่างคมชัดที่ความละเอียด 203 สามารถพิมพ์สติกเกอร์ได้ขนาดความกว้างถึง 4.09 นิ้ว และความยาวได้ถึง 39 นิ้ว และพิมพ์ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 4 นิ้วต่อวินาที มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลายถึง 3 รูปแบบ ได้แก่พอร์ตพริ้นเตอร์ พอร์ตอนุกรม (RS232) รวมถึงพอร์ตยูเอสบี

    bar5

    GT800 เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดความเร็วสูงราคาเร้าใจ

     

    Zebra GT800 เป็นเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดราคาประหยัดอีกรุ่นที่ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีจุดเด่นคือมีขนาดเล็ก และราคาประหยัด พิมพ์ตัวอักษรและบาร์โค้ดได้อย่างคมชัดที่ความละเอียด 203 DPI และพิมพ์ได้ด้วยอัตราเร็วสูงถึง 5 นิ้วต่อวินาที

     

    GT800 สามารถพิมพ์สติกเกอร์หรือใบเสร็จรับเงิน ขนาดความกว้างถึง 4.09 นิ้ว และความยาวได้ถึง 39 นิ้ว ติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ไว้อย่างครบครับ ได้แก่พอร์ตพริ้นเตอร์ พอร์ตอนุกรม (RS232) และพอร์ตยูเอสบี รวมถึงยังมีออปชั่นเสริมเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อเพื่อพิมพ์ผ่านระบบเครือข่ายได้ด้วย

     

     

    ประสิทธิภาพสำหรับผู้ประกอบการทุกระดับ

     

    ทั้ง GC420 และ GT800 มีให้เลือกทั้งรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบการผ่านโอนความร้อนไปยังกระดาษความร้อนโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ผ้าหมึก (Direct Thermal) และแบบโอนถ่ายความร้อนผ่านผ้าหมึก (Thermal Transfer) ตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็นลักษณะแบบเปิด ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลือง และการบำรุงรักษา รวมถึงมีอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์อย่างตัวตัดกระดาษอัตโนมัติ ทำให้สามารถใช้งานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

     

    เครื่องทั้งคู่สามารถพิมพ์ได้ทั้งบาร์โค้ดแบบ 1D และ 2D ไม่ว่าจะเป็น Code39 Code93 Code128 Ean13 Ean8 UPC PDF Maxicode DataMatrix และโค้ดอื่นๆ อีก เหมาะสำหรับหน่วยงานราชการ บริษัท ห้างร้านทั่วไป หรือกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องการพิมพ์บาร์โค้ดหรือสติกเกอร์ติดลงบนตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์

     

    ทั้ง GC420 และ GT800 ได้รับการออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ และมีความทนทานสูง โดยสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ 5 ถึง 40 องศาเซลเซียส

     

    ความสามารถดังกล่าวทำให้ Zebra GC 420/GT 800 รองรับกับการใช้งานในธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพและความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็ก คลินิก โรงพยาบาล การขนส่งสินค้า หรือแม้แต่อุตสาหกรรมขนาดเล็ก

     

    ทั้ง GC420 และ GT800 ถือเป็นความมุ่งมั่นของ Zebra Technologies ในการสร้างนวัตกรรมเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้ในภูมิภาคต่างๆ ของโลกอย่างแท้จริง นอกเหนือจากเครื่องทั้ง 2 รุ่นนี้แล้ว Zebra Technologies ยังมีเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดประสิทธิภาพสูงรุ่นอื่นๆ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของธุรกิจอีกมากมาย ลองเลือกเครื่องพิมพ์และโซลูชั่นบาร์โค้ดที่เหมาะสม แล้วท่านจะแปลกใจว่าบาร์โค้ดเข้ามาช่วยยกระดับของธุรกิจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ขอขอบคุณบทความดีๆจากเว็บไซต์ www.enterpriseitpro.net

    ระบบของการพิมพ์ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
    ความคิดเห็น (0) ระบบของการพิมพ์ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด
    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด คือ เครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์บาร์โค้ด โดยลักษณะการทำงานของเครื่องพิมพ์ ใช้ความร้อนในการพิมพ์บาร์โค้ดลงบนสื่อต่างๆ ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทั่วไป จะมีความละเอียดของหัวพิมพ์น้อยกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป คือมีความละเอียดของหัวพิมพ์อยู่ระหว่าง 200 - 600 Dpi และพิมพ์ได้เพียง 1 สีเท่านั้น (Monotone) แต่เนื่องจากเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีความเร็วในการพิมพ์สูง และสามารถพิมพ์บาร์โค้ดออกได้อย่างชัดเจน และเหมาะสมกับการพิมพ์บาร์โค้ดสำหรับติดลงวัตถุ หรือสินค้า จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
    ประเภทของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode Printer)
    ความคิดเห็น (0) ประเภทของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode Printer)
    เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด คือ เครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์บาร์โค้ด โดยลักษณะการทำงานของเครื่องพิมพ์ ใช้ความร้อนในการพิมพ์บาร์โค้ดลงบนสื่อต่างๆ ที่ทำขึ้นมาสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดทั่วไป จะมีความละเอียดของหัวพิมพ์น้อยกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป คือมีความละเอียดของหัวพิมพ์อยู่ระหว่าง 200 - 600 Dpi และพิมพ์ได้เพียง 1 สีเท่านั้น (Monotone) แต่เนื่องจากเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด มีความเร็วในการพิมพ์สูง และสามารถพิมพ์บาร์โค้ดออกได้อย่างชัดเจน และเหมาะสมกับการพิมพ์บาร์โค้ดสำหรับติดลงวัตถุ หรือสินค้า จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน