ค้นหา
ไทย
สินค้าตามประเภท
    เมนู ...ปิด
    RSS

    แสดงบทความเกี่ยวกับ บาร์โค้ด 1d

    ความคิดเห็น (0) บาร์โค้ด (Barcode) มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจอย่างไร?

    บาร์โค้ด (Barcode) มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจอย่างไร?

                     บาร์โค้ด หมายถึง เลขหมายประจำตัวสินค้าใช้แทนด้วยแท่งบาร์ขาว-ดำ เรียงเข้าด้วยกันและประกอบด้วยตัวเลข 8-13 หลัก สามารถอ่านได้ด้วยเครื่องอ่านบาร์โค้ดโดยอาศัยหลักของการสะท้อนแสงนิยมใชักับสินค้าอุปโภค บริโภคแทบทุกชนิดและสินค้าสำเร็จรูปต่าง ๆ


              การออกเลขหมายให้กับสินค้าแต่ละตัวจะช่วยให้การติดต่อกันระหว่างผู้ค้า (ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีก) สามารถทำงานได้ราบรื่นขึ้น เปรียบได้กับบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นเครื่องชี้บอกถึงความแตกต่างกัน ของแต่ละคน เลขหมายประจำตัวสินค้าก็เป็นเครื่องชี้บอกถึงความแตกต่างของสินค้าชนิดนั้น กับสินค้าอื่น ๆ

              สินค้าทุกชนิดที่มีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น ขนาด สี จำนวนบรรจุ จะมีเลขหมายประจำตัวสินค้าต่างกัน ตัวอย่างเช่น ไอศครีมรสวนิลาจะมีเลขหมายประจำตัวคนละเลขหมายต่างจาก ไอศครีมรสช็อคโกแลต หรือในกรณีกล่องใหญ่ที่บรรจุถ้วย 12 ใบ จะมีเลขหมายประจำตัวแตกต่างจากถ้วย 1 ใบ

    บาร์โค้ดช่วยอะไรได้บ้าง

              การนำบาร์โค้ดมาใช้ในธุรกิจการค้าจะมีคุณประโยชน์หลายประการ คือ

    • ลดขั้นตอนและประหยัดเวลาการทำงาน การซื้อ-ขาย สินค้าจะมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการรับชำระเงินการออกใบเสร็จการตัดสินค้าคงคลัง
    • ง่ายต่อระบบสินค้าคงคลังคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมกับเครื่องสแกนเนอร์จะตัดยอดสินค้าโดยอัตโนมัติ จึงสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียนสินค้า สินค้ารายการใดจำหน่ายได้ดีหรือไม่ มีสินค้าเหลือเท่าใด
    • ยกระดับมาตรฐานสินค้า การระบุแหล่งผลิตของประเทศแต่ละราย ทำให้ผู้ผลิตปรับปรุงคุณภาพเพื่อรักษาภาพพจน์ของสินค้าและสอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเรื่องสัญลักษณ์ รหัสแท่งสำหรับแสดงข้อมูลสินค้า
    • สร้างศักยภาพเชิงแข่งขันในตลาดต่างประเทศ รหัสแท่งเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีเชื่อถือได้ การมีรหัสประจำตัวของแต่ละประเทศทำให้ผู้ที่สนใจซื้อสินค้าสามารถทราบถึงแหล่งผลิตและติดต่อซื้อ-ขายกันได้สะดวกโดยตรง เป็นการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออก
    • เพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร ข้อมูลจากระบบรหัสแท่ง จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถตัดสินใจวางแผน และบริหารงานด้านการผลิต การจัดซื้อ และการตลาดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ


    ใช้กับธุรกิจใดบ้าง

    • ด้านผู้ผลิต เลขหมายประจำตัวสินค้าก่อให้เกิดวิวัฒนาการด้านบรรจุภัณฑ์ ตามหลักการ "หีบห่อก่อผลกำไรงาม" เลขหมายประจำตัวของผู้ผลิตแต่ละรายจะมีส่วนช่วยบ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้า และแหล่งติดต่อของผู้ผลิต โอกาสทางการตลาดของผู้ผลิตจึงเปิดกว้างไปอีกมาก
    •  สำหรับผู้ค้าส่งหรือผู้นำเข้าในต่างประเทศ มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต หรือแหล่งผลิตที่จะสามารถจัดหาสินค้าได้สะดวกและกว้างขวางออกไป ตลอดจนมีโอกาสซื้อสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์ด้านระบบข้อมูลเพื่อการบริหารงาน โดยเฉพาะข้อมูลด้านการขายและสินค้าคงคลัง
    • ระบบการค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าปลีกขนาดใหญ่ แบบ Supermarket หรือ Mass market ระบบเลขหมายประจำตัวสินค้าและสัญลักษณ์รหัสแท่ง จะช่วยให้การคิดเงินและการเก็บเงินของพนักงานถูกต้อง และรวดเร็วมาก จึงสามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังไม่ต้องติดป้ายบอกราคาสินค้าซึ่งมีเป็นจำนวนมากบนสินค้าแต่ละชิ้น ทำให้ลดปริมาณงานลงและสะดวกต่อการปรับราคาขาย

    สะดวก & แม่นยำ

              ลักษณะการทำงานบาร์โค้ดจะถูกอ่านด้วยเครื่องอ่านบาร์โค้ดบันทึกข้อมูลเข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่ต้องกดปุ่มที่แท่นพิมพ์ โดยอาศัยหลักของการสะท้อนแสง ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการทำงานมากขึ้น
              เครื่องสแกนเนอร์มีชนิดต่าง ๆ กัน ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออ่านบาร์โค้ดที่ได้รับการพิมพ์อย่างถูกต้องเครื่องอ่านบาร์โค้ดจะถูกต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์กลาง เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูลทุกครั้งที่มีการซื้อเข้าและการขายออกได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

     

     

    ขอขอบคุณบทความดีๆจากเว็บไซต์ : สถาบันรหัสสากล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

    บาร์โค้ดกับคิวอาร์โค้ด ต่างกันอย่างไร
    ความคิดเห็น (0) บาร์โค้ดกับคิวอาร์โค้ด ต่างกันอย่างไร

      ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีบาร์โค้ดนั้นเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้านมากมาย เช่น การค้า โดยการนำบาร์โค้ดมาติดกับตัวสินค้าต่างๆ  เพื่อจัดเก็บชื่อ รหัส และราคาของสินค้านั้นๆ หรือการจัดการสต๊อกสินค้า ซึ่งจะช่วยในการตรวจสอบจำนวนสินค้าคงเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น แลการนำบาร์โค้ดมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นที่นิยมกันนั้น บาร์โค้ดแบบ 1D ยังมีคุณสมบัติที่ยังไม่รองรับความต้องการของผู้ใช้งานได้มากเท่าไรนัก ฉะนั้นจึงมีการพัฒนาบาร์โค้ดแบบ 2D ขึ้นมา

     

    บาร์โค้ด 1D 

    บาร์โค้ด 1D มีลักษณะเป็นแถบจะประกอบด้วยเส้นสีดำสลับกับเส้นสีขาว ซึ่งจะใช้แทนรหัสตัวเลขหรือตัวอักษรโดยจะสามารถบรรจุข้อมูลได้ประมาณ 15-20 ตัวอักษร การใช้งานบาร์โค้ดจะใช้ร่วมกับฐานข้อมูลเมื่ออ่านบาร์โค้ดและถอดรหัสแล้วจึงนำรหัสที่ได้ใช้เรียกข้อมูลจากฐานข้อมูลอีกต่อหนึ่ง

    บาร์โค้ด 2D หรือ QR Code

    บาร์โค้ด 2D เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มเติมมาจากบาร์โค้ด 1D โดยออกแบบให้บรรจุได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน  ทำให้บรรจุข้อมูลมากได้ประมาณ 4,000 ตัวอักษรหรือประมาณ 200 เท่าของบาร์โค้ด 1D ในพื้นที่เท่ากันหรือเล็กกว่า และข้อมูลที่บรรจุสามารถใช้ภาษาอื่นได้จากภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลี เป็นต้น บาร์โค้ด 2D สามารถถอดรหัสได้แม้ภาพบาร์โค้ดบางส่วนมีการเสียหาย อุปกรณ์ที่ใช้อ่านและถอดรหัสบาร์โค้ด 2D มีตั้งแต่เครื่องอ่านแบบ CCD หรือเครื่องอ่านแบบเลเซอร์เหมือนกับของบาร์โค้ด 1D จนถึงโทรศัพท์มือถือแบบมีกล้องถ่ายรูปในตัวซึ่งติดตั้งโปรแกรมถอดรหัสไว้ ในส่วนลักษณะของบาร์โค้ด 2D มีอยู่อย่างมากมายหลากหลายตามชนิดของบาร์โค้ด เช่น สี่เหลี่ยม  วงกลม

     

    ขอขอบคุณบทความดีๆจากเว็บไซต์ http://www.rbs.co.th/TipsBarcode/